ย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้คุยกับพระอะชีน วีระธุ ภิกษุชาตินิยมที่สนับสนุนกองทัพเมียนมาและโด่งดังจากการปลุกระดมให้เกลียดชังชาวมุสลิมโรฮีนจา ล่าสุดสภาบริหารแห่งรัฐแถลงว่าพระรูปนี้ได้รับอิสรภาพแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้หลังถูกคุมขังมาสองปีในข้อหาปลุกระดมความเกลียดชังและหมิ่นประมาท
พระวีระธุเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า “มาบาธา” ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการปลุกระดมให้ชาวเมียนต่อต้านและรังเกียจคนมุสลิม และถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังกระแสความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชุมชนมุสลิม โดยเฉพาะในรัฐยะไข่ในเดือนตุลาคม 2555 ที่มีผู้เสียชีวิต 200 คน และในเมืองเมกติลาในมัณฑะเลย์ในเดือนมีนาคมในปีต่อมา ซึ่งทำให้มีคนตาย 44 คน
ถ้าดูจากคำตอบต่อคำถามของผมในระหว่างการสัมภาษณ์ ที่วัดมะซอเหย่นในเมืองมัณฑะเลย์ ก็คงเห็นภาพชัดว่าพระรูปนี้มีแนวคิดแบบไหน
คำถาม: อะไรทำให้พระวีระธุมองว่ามุสลิมเป็นภัยคุกคามต่อเมียนมาทั้งๆ ที่คนมุสลิมมีเพียงร้อยละ 5 จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน
พระวีระธุ: มุสลิมไม่ใช่เป็นเพียงแค่ภัยคุกคามเท่านั้น แต่กำลังพยายามจะกลืนเมียนมา คนมุสลิมแต่งงานกับหญิงเมียนมาที่เป็นพุทธและบังคับให้เปลี่ยนศาสนา และการที่ชายชาวมุสลิมมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคนก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มประชากรคนมุสลิม และในรัฐยะไข่ชัดเจนว่ามีความพยายามจะสถาปนารัฐอิสลาม
คำถาม: ยอมรับหรือไม่ว่าภาษาที่ปลุกเร้า และวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชังของท่านและมาบาธา มีส่วนจุดกระแสความรุนแรงต่อชาวมุสลิม
พระวีระธุ: “ความรุนแรงทั้งหลายเกิดขึ้นก่อนที่จะมีมาบาธาด้วยซ้ำ เป้าหมายของเราคือการลดความรุนแรง ไม่ใช่สร้างความรุนแรง สิ่งที่เราทำคือการเตือนให้คนเมียนมาระวังตัว เราจำเป็นต้องมีทหาร เพื่อปกป้องประเทศ และเราจำเป็นต้องมีมาบาธา เพื่อปกป้องศาสนา
คำถาม: “มาบาธา” สร้างความเกลียดชังต่อคนมุสลิม แต่ศาสนาพุทธสอนให้มนุษย์มีเมตตาธรรมต่อกันมิใช่หรือ
พระวีระธุ: “เรามีความเมตตาและความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนมุสลิม แต่เราจำเป็นต้องปกป้องศาสนาพุทธ เหมือนกับว่าอยู่ดีๆ มีช้างป่าตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน สิ่งที่เราต้องทำก็คือบอกให้ทุกคนหลบเข้าบ้านและปิดประตูบ้าน เราไม่ได้ขอให้ใครทำร้ายช้าง แต่ขอให้ทุกคนดูแลความปลอดภัยตัวเอง”
คำถาม: คิดอย่างไรกับฉายา “บินลาเดน แห่งเมียนมา” ที่สื่อมวลชนตะวันตกให้
พระวีระธุ: “อาตมาไม่แคร์ ความจริงฉายานี้มาจากการพูดเล่นของอาตมาเอง มีนักข่าวตะวันตกกลุ่มหนึ่งมาขอสัมภาษณ์ อาตมาเลยแกล้งหยอกล้อด้วยการถามว่า พวกท่านต้องการสัมภาษณ์ “บินลาเด็นแห่งเมียนมา” ใช่มั๊ย หลังจากนั้นฉายานี้ก็กระฉ่อนไปทั่วโลก มันเป็นการพูดเล่น เป็นบทเรียนสำหรับอาตมา คนที่เรียกอาตมาว่าเป็น “บินลาเดนแห่งเมียนมา” เป็นคนแรกเป็นคนมุสลิม”
คำถาม: ตัวคนที่แท้จริงของพระวีระธุเป็นอะไรกันแน่
พระวีระธุ: “สักวันโลกจะรู้ความจริงเอง”
พระวีระธุแสดงตัวชัดเจนมาตลอดว่าสนับสนุนกองทัพและต่อต้านพรรค NLD ของอองซานซูจี เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจที่ได้รับการปล่อยตัวโดยกองทัพซึ่งพยายามสร้างภาพมาตลอดว่าได้รับการสนับสนุนจากวงการสงฆ์